เคล็ดลับความสำเร็จแบบผู้นำสามก๊ก (เล่าปี่)
เคล็ดลับความสำเร็จแบบผู้นำสามก๊ก (เล่าปี่)
“ก่อร่างสร้างตัว จากชายขายรองเท้า สู่ราชาแห่งจ๊กก๊ก”
หากคุณไม่ได้เกิดมามั่งมีพร้อมทุกอย่างแบบฮ่องเต้เลนเต้
เหี้ยนเต้ หรือเกิดในตระกูลใหญ่แบบอ้วนเสี้ยว อ้วนสุด
หรือเกิดมาเป็นเชื้อพระวงศ์ได้สืบทอดองค์กรใหญ่แบบ เล่าเปียว เล่าเจี้ยง
หรือเป็นลูกหลานข้าราชการชั้นผู้ใหญ่อย่างโจโฉ
หรือเป็นลูกหลานของนักปราชญ์ที่ได้รับการยอมรับนับถือจากผู้คนทั้งภูมิภาคอย่างสกุลซุน
แต่เป็นเพียงคนธรรมดาทั่วไปที่ไม่มีอะไรเลย ต้องเริ่มต้นทุกอย่างใหม่จากศูนย์
บุคคลในสามก๊กที่คุณควรถือเป็นแบบอย่าง เป็นแนวทางสู่ความสำเร็จก็คือเล่าปี่
เล่าปี่นั้นแม้จะแซ่เล่าเป็นเชื้อพระวงศ์แต่ก็นับว่างหากมาก
จนไม่เหลือความเป็นเชื้อพระวงศ์แล้ว แม้เล่าปี่จะพอมีการศึกษา
แต่ในยุคที่คอรัปชั่นครองเมืองเล่าปี่ก็ตกอับจนต้องทอรองเท้าขาย
แต่ด้วยความที่เห็นวิกฤติเป็นโอกาส เล่าปี่ก็สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาได้
ทั้งเล่าปี่ยังเป็นเถ้าแก่ตัวอย่างเป็นยอดนักสู้
เพราะตลอดชีวิตของเล่าปี่กว่าจะประสบความสำเร็จอย่างสูงนั้น
เล่าปี่ประสบความสำเร็จสลับกับล้มเหลวมาตลอดทั้งชีวิต
ผู้เขียนจึงขอเขียนถึงปัจจัยและแนวทางที่ทำให้เล่าปี่คนธรรมดาผู้มีฐานะยากจน
สามารถประสบความสำเร็จอยากสูงในชีวิตได้
1
มองวิกฤติเป็นโอกาส
ในขณะที่องค์กรฮั่นตกต่ำถึงขีดสุด
ประชาชนเดือดร้อน เกิดกบฏโจรผ้าเหลือง ทุกคนมองว่าองค์กรฮั่นเข้าสู่ภาวะวิกฤติ
บ้านเมืองกำลังวิกฤติ แต่เล่าปี่มองวิกฤตินั้นเป็นโอกาสในการสร้างเนื้อสร้างตัว ระดมทุนจัดตั้งองค์กรขึ้นมารับงานจากองค์ฮั่นในการปราบโจรผ้าเหลือง
สร้างชื่อเสียงและความดีความชอบ จนได้เป็นเจ้าเมืองแม้จะเป็นเจ้าเมืองเล็กๆ
2
ไม่หลงยึดติดไปกับความสำเร็จชั่วคราว
เล่าปี่นั้นเมื่อได้ตำแหน่งได้เป็นเจ้าเมือง
แต่เมื่อพบองค์กรฮั่นที่ตนได้ตำแหน่งมานั้น มีการดำเนินงานที่ล้มเหลว
ผิดกับหลักการและแนวทางของตน
เล่าปี่ก็สามารถตัดใจจากตำแหน่งที่ตนลำบากต่อสู้จนได้มา
เพื่อไปมองหาลู่ทางใหม่ที่สอดคล้องกับอุดมการณ์ของตนในทันที
3
ไม่ทิ้งอุดมการณ์และความฝัน (ความผันที่ดีสร้างสรรค์และมีประโยชน์)
เล่าปี่นั้นเริ่มต้นจากศูนย์
สร้างตัวขึ้นมาด้วยอุดมการณ์และความฝันของตน ว่าจะเชิดชูพิทักษ์ราชวงศ์ฮั่น
ทำนุบำรุงประชาชนให้มีความสุข
ยึดมั่นถือมั่นในหลักการคุณธรรมและความดีงามแม้จะล้มเหลวซักกี่ครั้งต้องลำบากซักกี่หนเล่าปี่ก็ไม่เคยทอดทิ้งความฝันและอุดมการณ์ของตนเอง
แม้นจะมีข้อเสนอที่ดีเข้ามาให้เล่าปี่แต่ถ้าขัดกับหลักการคุณธรรมเล่าปี่ก็จะปฏิเสธ
เล่าปี่เลือกเส้นทางที่ยากกว่าแต่ถูกต้อง เล่าปี่จึงประสบความสำเร็จในระยะยาว
เพราะเล่าปี่ Branding
ตัวเองอยู่เสมอ ในเรื่องความมีคุณธรรม
กระทำการเพื่อประชาชนผู้บริโภค
ประชนชนจึงรักใคร่เล่าปี่ให้การสนับสนุนเล่าปีเป็นอย่างมาก
4
สรรหา รักษา หุ้นส่วนและทีมงานที่ดีไว้เสมอ
เล่าปี่
เล่าปี่มีความสามารถพิเศษในการดูคน
สามารถวิเคราะห์แยกแย่คนดีไม่ดีได้อย่างลึกซึ้ง
ทั้งการที่เล่าปี่แสดงตนว่าต้องการรักษาคุณธรรม เพื่อรักษาราชวงศ์ฮั่น
ช่วยเหลือประชาชน เป็นเหตุทำให้มีผู้ที่มีอุดมการณ์เดียวกับเล่าปี่เข้าร่วมกับเล่าปี่
โดยเฉพาะผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรกับเล่าปี่อย่างกวนอูกับเตียวหุย
ที่มีความสามารถมีฝีมือโดดเด่น ทั้งยังได้จูล่งมาอีกในภายหลัง
ทำให้องค์กรของเล่าปี่เป็นองค์กรเล็กๆที่อุดมไปด้วยบุคลากรที่มีความสามารถ ทั้งยังมีอุดมการณ์ร่วมกับเล่าปี่ แม้องค์กรจะเล็กแต่ก็สามารถสู้ไปกับเล่าปี่จนกลายเป็นองค์กรใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ
หลักการในการเลือกคนและรักษาคนของเล่าปี่
1) เป็นคนดีมีความสามารถที่มีอุดมการณ์ร่วมกัน เช่น
กวนอู เตียวหุย จูล่ง ทำให้แม้นลำบากก็ไม่ทอดทิ้งกันแม้นได้ดีก็ไม่ลืมกัน
2) ถ้าเป็นคนดีมีความสามารถที่มีอุดมการณ์ร่วมกันแล้ว
แม้นจะเคยอยู่คนละฝ่ายมาก่อนเล่าปี่ก็ให้การต้อนรับอย่างดีไม่สนเรื่องในอดีต เช่น
อุยเอี๋ยน ฮองตง เงียมหงัน
เล่าปี่ให้เหตุผลว่าถ้าเราปฏิเสธคนที่เคยอยู่คนละฝ่ายด้วยเหตุผลเพราะเค้าเคยทำงานให้อีกฝ่ายแล้ว
ต่อไปจะมีใครมาร่วมงานกับเรา
ขอเพียงมีความสามารถและมีใจจะทำงานให้เล่าปี่แล้วเล่าปี่ก็จะไม่ปฏิเสธ
ด้วยนโยบายนี้ทำให้เล่าปี่ได้คนดีมีความสามารถมาร่วมงานด้วยอีกมากมาย
ทำให้องค์กรของเล่าปี่สามารถขยายตัวเป็นองค์ใหญ่ได้ในที่สุด
3) ให้ความสำคัญกับทีมงานมากกว่าคนในครอบครัว
เล่าปี่ถือคติว่า “ลูกเมียดังเสื้อผ้า
พี่น้องดุจแขนขา” ความคิดของเล่าปี่คือ
ถ้ายังมีชีวิตอยู่ เมียก็ยังหาใหม่ได้ ลูกก็ยังมีใหม่ได้
แต่ลูกน้องทีมงานคนสำคัญนั้น หากเสียไปก็หาเอาใหม่ไม่ได้อีก
5
หาขงเบ้งของคุณให้เจอ ขงเบ้งในที่นี่ไม่ได้หมายถึงตัวบุคคลเช่นขงเบ้ง
แต่หมายถึง การกำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจ (goal vision mission) ในกระท่อมของขงเบ้ง เมื่อคุณมีความฝัน(dream) มีความต้องการที่จะประสบความสำเร็จแต่ไม่ว่าจะผ่านไปนานขนาดไหนคุณก็ไปไม่ถึงฝันซักที
นั่นเป็นเพราะคุณยังหลงทางอยู่ คุณยังไม่พบเส้นทางที่จะทำให้ฝันนั้นเป็นจริง
การพบขงเบ้งของเล่าปี่นั้นคือการทำให้ฝันเป็นจริงขึ้นมา เปลี่ยนจากฝัน (dream) ให้เป็น เป้าหมาย (goal) ด้วยการกำหนดวิสัยทัศน์ (vision) คือการมองฝันอย่างเป็นไปได้
และกำหนดวิธีและขั้นตอน ที่จะทำให้เป้าหมายนั้นเป็นจริงขึ้นมา นั่นคือ พันธกิจ (mission)
ตัวอย่างจากเล่าปี่
เล่าปี่มีอุดมการณ์และความฝัน(dream)คือฟื้นฟูราชวงศ์ฮั่น
จากการแตกเป็นก๊กเหล่าของขุนพลในแผ่นดินต่างไม่เชื่อฟังองค์ฮ่องเต้บ้านเมืองระส่ำระส่าย
เกิดสงครามชิงดินแดน ฮ่องเต้ตกอยู่ในกำมือโจโฉ
ทำให้เล่าปี่ตั้งตัวเป็นศัตรูแก่โจโฉ ไปเข้าร่วมกับอ้วนเสี้ยวก็แพ้
จนมาเข้าร่วมกับเล่าเปียว เล่าปี่มองไม่เห็นทางที่จะทำให้ฝันเป็นจริง
จนมาพบกับขงเบ้ง
ขงเบ้งจึงชี้ให้เล่าปี่เห็นถึง
goal vision
mission ดังนี้
Goal
ฟื้นฝูราชวงฮั่น
จะสำเร็จ ได้ด้วยการชนะองค์กรของโจโฉช่วยเหลือองค์ฮ่องเต้มาได้
Vision
แบ่งแผ่นดินออกเป็น
3 ก๊ก ด้วย vision นี้
เป้าหมายของเล่าปี่จึงจะมีโอกาสเป็นจริง เล่าปี่ จะมีพลังพอที่จะชนะโจโฉได้
ก็ด้วยการขึ้นเป็นใหญ่ระดับหนึ่งในสามองค์กรใหญ่ของแผ่นดินจีนเที่ยบเทียมกับองค์กรของโจโฮ
Mission
ขั้นตอนแนวทางเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย
1
ครองเกงจิ๋ว
2
ผูกมิตรซุนกวน
3
ครองเสฉวน
4
แบ่งแผ่นดินเป็น 3 ก๊ก
5
รอจังหวะบุกวุยก๊กของโจโฉช่วยเหลือองค์ฮ่องเต้
จากเรื่องในสามก๊กก็จะเห็นได้ว่า
แม้นจะทุลักทุเล ผ่านความลำบากมากมาย แต่เล่าปี่กับขงเบ้งก็สามารถ
ทำพันธกิจสำเร็จไปได้ตามขั้นตอน จนเหลือเพียงพิชิตวุยก๊กของโจโฉช่วยเหลือองค์ฮ่องเต้
ซึ่งขงเบ้งไม่อาจทำได้สำเร็จ
แต่ถึงแม้นจะไม่สำเร็จเป้าหมายใหญ่สุดท้ายของเล่าปี่
แต่ก็ถือได้ว่าเล่าปี่เป็นผู้นำ เป็นเถ้าแก่ ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง
สามารถพาตนจากศูนย์ ขึ้นมาเป็นหนึ่งในสามองค์กรใหญ่ของจีน
ดังนั้นถ้าอยากประสบความสำเร็จแบบเล่าปี่
ต้องเริ่มที่หาความฝัน หาอุดมการณ์ของตนเองให้เจอ
ทั้งนี้อุดมการณ์ความฝันนั้นต้องเป็นไปในทางบวก คือทางที่ดี
สร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชนผู้บริโภค ก็จะได้รับการสนับสนุนเหมือนดังเล่าปี่
จากนั้นก็รักษาความฝันและอุดมการณ์ของตนไว้ให้ถึงที่สุด
และ
อย่าลืมที่จะหาขงเบ้ง (goal vision
mission) ของคุณให้เจอ
Writer's Credit : รังสรรค์ ใจอารีย์ (สามก๊ก ฉบับ start up)

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น