บทที่ 2 The emptiness of power (สามก๊ก ฉบับ start up)


บทที่ 2 The emptiness of power
..189 เล่าปี่อายุ 29 ปี โจโฉอายุ 35 ปี ซุนกวนอายุ 8 ปี
พระเจ้าเลนเต้สวรรคต,
แล้วก็มาถึงวัน วันที่ท่านประธานแต่ในนาม(พระเจ้าเลนเต้)ใกล้สวรรคต ทำให้เกิดการแย่งชิงอำนาจกันภายในองค์กร มีผู้มีสิทธิ์สืบราชสมบัติ 2 คนได้แก่ รัชทายาทอันดับ1 ฮองจูเปียน ลูกของโฮเฮาองค์ปัจจุบัน กับรัชทายาทอันดับ 2 ฮองจูเหียบ ลูกของสนมเอก(เสียชีวิตโดยการวางยาโดยโฮเฮาองค์ปัจจุบัน) ซึ่งฮองจูเหียบนี้มีไทเฮา(แม่พระเจ้าเลนเต้)เป็นผู้หนุนหลัง จึงเป็นศึกสงครามภายในระหว่างแม่ผัวกับลูกสะใภ้อย่างแท้จริง ต่างฝ่ายต่างก็ต้องการหนุนเด็กในสังกัตของตนเองขึ้นครองราชย์เป็นทั่นประธาน เนื่องจากจะได้มีอภิสิทธิ์เด็จขาดในการบริหารราชการแทนเพราะทั้งคู่ยังเป็นผู้เยาว์สามารถชักจูงได้ง่ายไม่สามารถบริหารราชการเองได้ นอกจากขั่วอำนาจ 2 ฝ่ายนี้แล้วยังมี 10 ขันที ผู้นำขุนนางคอรัปชั่นฝ่ายใน ที่มีอำนาจในองค์กรสูงก็พยายามยุให้แม่ผัวลูกสะใภ้ตีกันให้หนักขึ้นสุดท้ายใครชนะก็อยู่ฝั่งนั้น แต่ก็เอนเอียงไปทางไทเฮาเนื่องจาก ไม่ถูกกับ โฮจิ๋นแม่ทัพใหญ่ขายหมู พี่ชายของโฮเฮา ถ้าโฮเฮากุมอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งการบริหารและการตลาดขึ้นมานั้น 10ขันทีก็จะไร้ความหมาย อาจจะเดือดร้อนได้ ในขณะนั้นโฮจิ๋น มีทีมงานเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงมากความสามารถ 2 คน
1 คือโจโฉ ขณะนั้นอายุ 35 เป็นลูกบุญธรรมของนักการเมืองรุ่นใหญ่ มีการศึกษาดีระดับนายร้อยตำรวจ ลักษณะ อุปนิสัยใจกว้าง ซื้อใจคนเก่ง ฉลาดหลักแหลม แต่ยึดตัวเองเป็นความถูกต้อง
2 คืออ้วนเสี่ยว ขณะนั้นอายุ 36 เป็นทายาทตระกูลนักการเมืองอาวุโส 4 รุ่น การศึกษาสูงระดับเดียวกับโจโฉ ลักษณะ อุปนิสัยใจแคบ คิดเล็กคิดน้อย ตัดสินใจอะไรไม่เด็ดขาด   
โฮจิ๋นนั้นกำลังหลงในอำนาจ รับรู้และไม่ชอบในความชั่วร้ายของ 10 ขันทีจึงคิดจะกำจัดเสีย อ้วนเสี้ยวก็แนะนำให้ทำพระราชโองการเรียกทัพหัวเมืองเข้ามาปราบ 10 ขันที ส่วนโจโฉแนะนำว่า การจะกำจัดขันทีแก่ๆ 10 คนนั้น แค่ให้ทหารในเมืองของโฮจิ๋นจับตัวมาส่งกรมขังคุกประหารทิ้งก็จบเรื่องแล้ว จะเห็นได้ว่าโจโฉเป็นผู้ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย Simple is the Best แต่อ้วนเสี่ยวนั้นทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก  ซึ่งแน่นอนว่าท่านผู้นำ ผู้มากความสามารถในการชำแหละหมูอย่างเดียวนั้นเลือกการทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากตามแนวคิดอ้วนเสี่ยว
และเมื่อพระเจ้าเลนเต้สวรรคตเหตุการณ์ก็ตึงเครียดสุดขีด โฮเฮากับโฮจิ๋นลงมือเร็วกว่า ตั้งฮองจูเปียน ครองราชทันทีและถอดยศไทเฮาส่งไปอยู่นอกเมืองต่อมายังส่งยาพิษไปให้ดื่มจนตาย หลังจากเกมส์เปลี่ยน 10 ขันทีรู้ตัวว่าภัยจะมาจึงวิ่งไปร้องขอโฮเฮาให้ช่วยเจรจากับโฮจิ๋นให้ไว้ชีวิต 10 ขันที จนโฮจิ๋นใจอ่อนจะปล่อยไปแต่ด้วยแรงยุของโจโฉกับอ้วนเสี่ยว ว่าเก็บ 10 ขันทีไว้ในองค์กรก็มีแต่จะสร้างปัญหาสืบไป โฮจิ๋นจึงดำเนินการตามแผนการเดิมให้ทัพหัวเมืองยกเข้าเมืองปราบขันที ซึ่งที่ปรึกษาต่างๆภายในองค์กรก็บอกกับโฮจิ๋นซึ่งขึ้นจาก Marketing Manager(แม่ทัพใหญ่) เป็น Manager Director(สมุหนายก) แล้วว่าขณะนี้ท่านมีอำนาจล้นมือแล้วจะทำอย่างไรกับ 10 ขันทีก็ได้ไม่เห็นจะต้องยกทัพหัวเมืองเข้ามาเลย เพราะเรื่องส่วนกลางจะให้บริษัทสาขามาจัดการให้ก็ไม่ใช่เรื่อง โฮจิ๋นก็ไม่ฟัง เรียกตั๋งโต๊ะจากซีหลงเข้ามาปราบขันที เมื่อ 10 ขันทีรู้แน่ว่าโฮจิ๋นไม่เอาพวกตัวไว้จึงชิงลงมือปลอมเอกสารเป็นโฮเฮาเรียกตัวโฮ๋จินมาลอบสังหาร โฮจิ๋นก็หลงเชื่อทั้งๆที่โจโฉห้ามปรามว่าใกล้จะทำการใหญ่ให้ระวังตัวอย่างดีไม่ควรไปตามเอกสารเรียกตัวของโฮเฮา โฮจิ๋นไม่ฟังก็ไปตามคำเชิญโจโฉจึงนำกำลังคนส่วนหนึ่งตามไปสมทบอยู่นอกกำแพงวัง เมื่อ10ขันทีสังหารโฮ๋จิ๋นแล้วจึงประกาศออกไปว่าโฮจิ๋นเป็นกบฏถูกสังหารแล้วโดย10ขันที โจโฉในตอนนั้นไม่รอช้ารีบชิงลงมือว่า 10 ขันทีเป็นกบฏให้ปราบเสีย ทหารในเมืองที่โจโฉพาไปสมทบจึงสังหาร 10 ขันทีทั้งหมด เป็นอันจบเรื่องราวของ 10 ขันที แต่เรื่องความปั่นป่วนในองค์กรยังไม่จบประธานบริษัทพระเจ้าเลนเต้ ตาย Manger Director โฮจิ๋น ตาย ทีมผู้บริหารอาวุโส 10 ขันทีตาย แม่ประธาน ไทเฮา ตาย ผู้มีอำนาจในองค์กรตายหมด เหลือเพียงโฮเฮากับลูกน้อย ที่ไม่มีความรู้ความสามารถอะไร ทั้งยังไม่มีฐานอำนาจทางการปกครองและทางทหารแต่อย่างใด จึงไม่สามารถบริหารองค์กรใหญ่อย่าง บริษัท ฮั่น มหาชนจำกัดได้ เกิดสุญญากาศทางอำนาจขึ้นมา ส้มก็เลยมาหล่นที่ตังโต๊ะหัวหน้าสาขาหัวเมืองซิหลง ที่คุมทหาร 10 หมื่นเข้ามาปราบขันที 10 คน(คิดได้ยังไงนะ) ก็เลยใช้ทหารทั้ง 10 หมื่นนั้นคุมส่วนกลางเมืองหลวงซะเลย เมื่อเข้าคุมส่วนกลางได้สิ่งแรกที่ตังโต๊ะคิดจะทำก็คือเป็นตัวเชิด โดยคิดจะปลดฮองจูเปียนของโฮเฮาและต้องฮองจูเหียบขึ้นมาเชิดแทน ก็ได้รับการขัดขวางจากขุนนางหนึ่งในนั้นคือเต็งหงวนซึ่งตั๋งโต๊ะคิดจะกำจัดเสียแต่ทำไม่ได้เนื่องจากเต็งหงวนมีองค์รักหนุ่มทั้งยังเป็นบุตรบุญธรรมมากความสามารถในการต่อสู้ชื่อลิโป้อยู่ข้างกาย ตั๋งโต๊ะจึงไม่อาจคิดการใหญ่ได้ ที่ปรึกษาของตั๋งโต๊ะชื่อลิยูจึงบอกว่าให้ตั๋งโต๊ะซื้อตัวลิโป้มาจากเตงหงวนเพราะลิโป้นี้แม้จะมีฝืมือเก่งกาจแต่เป็นคนโลภ ตั๋งโต๊ะจึงส่ง รถเฟอรารี่ (ม้าเซ็กเทาวิ่งเร็วสุดในยุคนั้น) พร้อมเงินทองต่างๆไปให้ลิโป้พร้อมทั้งบอกว่าอยู่กับเต็งหงวนสืบไปกี่ปีก็ไม่ก้าวหน้า แต่ถ้าย้ายมาทำงานกับตั๋งโต๊ะจะมีแต่ความเจริญก้าวหน้าแน่นอน ลิโป้ได้รับของก็ตาโตแล้วยิ่งได้ยินคำหวานคนโลภแบบลิโป้ก็ตัดสินใจง่ายขึ้น จึงเดินไปตัดหัวพ่อบุญธรรมเต็งหงวนมอบให้ตั๊งโต๊ะ เป็นการแสดงความทะเยอทะยานของตัวเอง เมื่อตั๊งโต๊ะได้ลิโป้มาก็เหมือนเสือติดปีกจะคิดการใหญ่อะไรก็ง่ายขึ้น เมื่อมีลิโป้ข้างกายใครก็ทำอะไรตั๊งโต๊ะไม่ได้ สุดท้ายการใหญ่ของตั๋งโต๊ะจึงสำเร็จโดยการปลดฮองจูเปียนออกและตั้งฮองจูเหียบขึ้นแทน จากนั้นจึงสั่งคุมขังโฮเฮาและลูกฮองจูเปียนและส่งคนไปบังคับให้ดื่มยาพิษ ผลกรรมที่ทำกับแม่ผัวไว้นี่ช่างสนองได้อย่างรวดเร็วเหลือเกิน ก่อนตายโฮเฮาได้ตัดพ้อด่าพี่ชายตัวเองที่ช่างโง่นักที่ให้ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองมาเรื่องถึงเป็นแบบนี้ แต่นางลืมคิดไปว่าไม่ใช่นางเองหรอกหรือที่เห็นเส้นสายตัวเองดีกว่าผู้มีความรู้ความสามารถจึงได้ตั้งพี่ชายตัวเองมาทำตำแหน่งใหญ่โตทั้งๆที่ไม่มีความรู้ความสามารถผลมันจึงออกมาเป็นแบบนี้ก็จบศึกแม่ผัวลูกสะใภ้ส้มหล่นเป็นของคนนอก ตั๋งโต๊ะขึ้นเป็น MD ของ บริษัทฮั่น มหาชนจำกัด
สรุป บทที่ 2
การเลือกใช้คนควรมุ้งเน้นที่เป็นคนดีมีความสามารถ คนดี” “มีความสามารถสองคำง่ายๆสองคำนี้การจะให้มีอยู่ในคนๆเดียวกันนั้นช่างเป็นเรื่องยาก เพราะทั้งชีวิตเรามักจะเจอแต่ คนดีแต่ไม่เก่ง กับคนเก่งแต่ไม่ดี การจะหาคนที่ทั้งดีทั้งเก่งได้นั้นเป็นเรื่องยากมาก เมื่อหาเจอแล้วต้องพยายามรักษาไว้ให้ได้ และการจะใช้งานใครในตำแหน่งสำคัญนั้นควรจะเป็นคนดีมีความสามารถเพราะว่าคนดีมีความสามารถจะสามารถนำความเจริญมาสู่เราแต่ถ้าเราไม่เลือกใช้คนดีมีความสามารถแต่เราเห็นแก่ญาติมิตรเห็นแก่พรรคพวกกันมากกว่า แม้จะไม่ดีไม่เก่งแต่ก็เลือกใช้งานเพราะเห็นว่าเป็นญาติมิตรกันสุดท้ายก็จะไม่ต่างกับนางโฮเฮากับโฮจิ๋น น้องตั้งพี่ให้เป็น MD เพราะเป็นญาติกันไว้ใจได้แต่สุดท้ายด้วยความสิ้นคิดของพี่ชายก็นำความชิบหายมาสู่ตน

Writer's Credit : รังสรรค์ ใจอารีย์ (สามก๊ก ฉบับ start up)


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปรัชญาของสุมาอี้ วิสัยทัศน์ สู่ความสำเร็จ

ปรัชญาเมิงจื่อ หลักการสำหรับพิชิตตลาด

ปรัชญาขงจื่อ (ลัทธิหยู) หลักแห่งความสำเร็จอย่างยั่งยืน