บทที่ 1 Monopoly of Han (สามก๊ก ฉบับ start up)
ก่อร่างสร้างตัว
จากชายขายรองเท้า สู่ราชาแห่งจ๊กก๊ก
บทที่ 1 Monopoly of Han
“แผ่นดินจีนนี้เมื่อรวมมานานจักแตกแยก
เมื่อแตกแยกมานานจักรวม”
(ไม่มีองค์กรใดจะยิ่งใหญ่ไปได้ตลอด)
อาณาจักรจีนช่วง
ค.ศ.150 ประเทศจีนได้ถูกผูกขาดทางการปกครองโดย
ราชวงฮั่น ซึ่งผมจะขอเรียกว่าบริษัท ฮั่น มหาชนจำกัด อยู่เจ้าเดียว(Monopoly) เป็นเวลากว่า400 ปี
นับตั้งแต่องค์กรของ ฌ้อปาอ๋องเซียงยี่ พ่ายแพ้ให้กับองค์กรของ พระเจ้าฮั่นเกาจู
เล่าปัง ซึ่ง พระเจ้าฮั่นเกาจู เล่าปังก็ได้สถาปนาองค์กร ฮั่น มหาชน จำกัด
ขึ้นมาปกครองประเทศจีนไปได้ 400 กว่าปี
ด้วยการเป็นเจ้าครองตลาดมาอย่างยาวนานแต่เพียงผู้เดียวนั้น ทำให้บริษัทฮั่น
มหาชนจำกัด เป็นมากกว่าองค์กรการปกครอง แต่เป็นหลักการเป็นวิถีทางในการดำเนินชีวิตของประชาชนชาวฮั่น
ประชาชนผู้บริโภคนั้นยึดมันในแบรนด์ ฮั่น เป็นอย่างมาก เพราะอยู่คู่กันมากว่า 400
ปี แต่หลังจากการผูกขาดมาอย่างยาวนาน การปราศจากการแข่งขัน
ผู้นำองค์กรรุ่นใหม่ๆก็หย่อนยานไร้ความสามารถ เสวยสุขไปวันๆ มีขันทีคอยให้ความบันเทิง
เมื่อผู้นำเน้นความบันเทิงส่วนตัวเป็นหลัก ผู้ตามในองค์กรก็เอาอย่าง
หาความสุขใส่ตัวโดยการคอรัปชั่น ประจบประแจงเลียแข้งเลียขามอมเมาผู้นำองค์กร
เพื่อนำมาซึ่งโอกาสได้ตำแหน่งที่ใหญ่โตขึ้นเพื่อเพิ่มความสามารถในการโกงกินขูดรีดภาษี
และทุกคนก็จ้องแต่จะเบียดเบียนเอาเปรียบขูดรีดภาษีจากประชาชนผู้บริโภค
ไม่มีใครสนใจผู้บริโภคอีกต่อไปการเปลี่ยนแปลงจึงเกิดขึ้น!!
ค.ศ.155 โจโฉเกิด
ค.ศ.156 ซุนเกี๋ยน(พ่อซุนเซ็ก,ซุนกวน)เกิด
ค.ศ.159 เกิดความขัดแย้งขึ้นภายใน องค์กร
ฮั่น
มหาชนจำกัดระหว่างกลุ่มขันทีผู้ซึ่งคอยนำความบันเทิงให้องค์ฮ่องเต้ผู้นำองค์กร
กับเหล่าขุนนางผู้บริหารทำงานในองค์กร ผลคือเหล่าขันทีชนะ
ค.ศ.160 เหล่าขันทีเป็นใหญ่ใน บริษัท ฮั่น
มหาชนจำกัด มอมเมาแต่ความบันเทิงให้องค์ฮ่องเต้ ส่งผลให้บ้านเมืองเข้าสู่กลียุค
เพราะองค์ฮ่องเต้ไม่สนใจราชการงานบริหาร ถูกปิดหูปิดตามอมเมาโดยเหล่าขันที
ตำแหน่งขุนนางหน้าที่การงานใน บริษัท ฮั่น มหาชนจำกัด
สามารถซื้อได้โดยการยัดเงินสินบนให้เหล่าขันที
ผู้ที่มีเงินก็พากันซื้อตำแหน่งเพื่อที่จะใช้ตำแหน่งนั้นไปถอนทุนคืนโดยการขูดรีดภาษีจากประชาชนในเขตที่ตัวเองปกครอง
กลายเป็นวัฏจักรนรก ขุนนางหาเงินมาซื้อตำแหน่ง เพื่อมาขูดรีดภาษี
เพื่อจะไปซื้อตำแหน่งใหญ่ขึ้นเพื่อจะได้ขูดภาษีได้มากขึ้น
เคราะห์กรรมก็ตกแก่ผู้บริโภคชาวฮั่นที่โดนขูดภาษี ต้องอดอยาก ยากจน
แร้งแค้นขึ้นทุกทีๆ
ค.ศ.161 เล่าปี่เกิด(เด็กกว่าโจโฉ 6 ปี)
ค.ศ.162 บริษัท ฮั่น มหาชนจำกัด
ตกต่ำลงอย่างมาก ประชาชนผู้บริโภคเดือดร้อนเพราะถูกขูดรีดภาษี
ก็เหมือนกับถูกบังคับให้ต้องจ่ายเงินซื้อสินค้าราคาแพงด้วยสินค้าและบริการไม่ได้คุณภาพ
แต่จะเปลี่ยนไปซื้อเจ้าอื่นก็ไม่ได้เพราะถูกผูกขาดอยู่เจ้าเดียวและจำเป็นต้องซื้อ
ไม่มีเงินก็ต้องจ่าย ทำให้คนรวยกลายเป็นคนจน คนจนก็ยิ่งจนหนักเข้าไปอีก
ค.ศ.163 เล่าปี่นั้นเกิดในฐานะเชื้อพระวงศ์
ทางบ้านฐานะดี แต่จากการที่บิดาเสียไปก่อน และบริษัท ฮั่น มหาชนจำกัดตกต่ำ
ขุนนางเลวๆเต็มเมือง ทำให้ทรัพย์สินถูกยึด
ต้องกลายเป็นคนยากจน เพราะผลกระทบจากกลียุค
ค.ศ.163 พระเจ้าฮั่นเต้สวรรคต
พระเจ้าเลนเต้ขึ้นครองราชด้วยการสนับสนุนจากกลุ่มขันที
ค.ศ.173 โจโฉ อายุ 19 โจโฉนั้นเดิมแซ่แฮหัว
แต่พ่อโจโฉได้ไปเป็นบุตรบุญธรรมของขันทีใหญ่ ทำให้โจโฉได้รับการสนับสนุนอย่างดี
อายุ 19 ก็ได้สอบเข้าโรงเรียนรัฐเพื่อเตรียมเข้ารับราชการ
ดังเช่นโรงเรียนนายร้อยจปล.อายุ 20 ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บังคับการกองทหารนครบาลเหนือประจำเมืองหลวงลกเอี๋ยง
อายุ 23 ก็ได้เป็นนายอำเภอ และราชเลขานุการราชสำนัก
ค.ศ.175 เล่าปี่ อายุ 15 ก็ได้เข้าเรียนหนังสือที่สำนักโลติด มีเพื่อนร่วมชั้นเช่นกองซุนจ้าน
ซึ่งถือว่าเล่าปี่มีการศึกษาดีในระดับหนึ่ง
ค.ศ.175 ซุนเซ็ก,จิวยี่เกิด
ค.ศ.180 โฮเฮาขึ้นเป็นอัครมเหสีของพระเจ้าเลนเต้
โฮจิ๋นพี่ชายก็ขึ้นเป็นขุนนางผู้ใหญ่ที่ปรึกษา จากคนขายหมูก็กลายเป็น CEO ของบริษัท ฮั่น มหาชนจำกัด
เพียงเพราะเป็นพี่ชายของเมียประธานองค์กรซะอย่างนั้น
ค.ศ.181 ขงเบ้งเกิด(เด็กกว่าเล่าปี่ 20 ปี)
ค.ศ.182 ซุนกวนเกิด(เด็กกว่าโจโฉ 27 ปี เด็กกว่าเล่าปี่ 21 ปี)
แผนที่แสดงเขตอิทธิพล ประเทศจีน ค.ศ.184
จากเกมร์ Romance of three kingdoms 11 ของค่าย KOEI
ค.ศ.184
เล่าปี่อายุ 24 ปี โจโฉอายุ 30 ปี ซุนกวนอายุ 3 ปี
เมื่อประชานชนผู้บริโภคชาวฮั่น
ถูกบริษัท ฮั่น มหาชนจำกัด เอารัดเอาเปรียบจนทนไม่ไหว
สุดท้ายก็ต้องเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น โดยพยามลุกขึ้นมาตั้งบริษัท SME(กบฏ) ของตัวเอง
โดยมีเจ้าหนึ่งที่จัดได้ว่าประสบความสำเร็จในระดับสูงซึ่งก็คือ บริษัท
กลุ่มโจรผ้าเหลือง จำกัด จัดตั้งโดยสามพี่น้อง เตียวก๊ก เตียวโป้ เตียวเหลียง
โดยมีสโลแกนขององค์กรว่า “ฟ้าครามสิ้นแล้ว ฟ้าเหลืองขึ้นแทน” หมายถึงบริษัทฮั่น
มหาชน จำกัด ใกล้เจ๊งแล้ว และ บริษัท กลุ่มโจรผ้าเหลือง จำกัดเตรียม
จะขึ้นเป็นผู้นำตลาดแทน เชิญชวนผู้ที่ต้องการเปลี่ยนจากอะไรเดิมๆที่มันไม่ดีแบบ
บริษัทฮั่น มหาชน จำกัด ให้มาเข้าร่วมด้วย ก็ระดมทุนได้มากมาย
มีลูกค้าสนใจเป็นอันมาก ทำให้ บริษัทฮั่น มหาชน จำกัด เกือบจะเจ๊งจริงๆ แต่ก็ยังไม่เจ๊งทางผู้นำด้านการตลาดของ
บริษัท ฮั่น มหาชนจำกัด ขณะนั้นคือ นายพล โฮจิ๋น ซึ่งจบเอกด้านการเชือดหมูมา(ไม่มีความรู้แต่อย่างใด)แต่ได้ดำรงตำแหน่งใหญ่โตเพราะเป็นพี่ชายของ
โฮเฮา ซึ่งเป็นเมียของพระเจ้าเลนเต้แม่ของพระเจ้าฮองจูเปียน
ซึ่งเป็นรัชทายาทอันดับ 1 เมื่อปัญหาเกิดขึ้นมีคู่แข่งขันขึ้นมาแต่สภาพองค์กรไม่พร้อมแข่งขัน
นายพลโฮจิ๋นก็เกิดไอเดียร์ Out source ทำแฟรนไซส์
ขึ้นมาโดยรับสมัครผู้กล้าออกไปสู้กับ บริษัท กลุ่มโจรผ้าเหลือง จำกัดโดย
บริษัทฮั่น มหาชน จำกัดให้คำมั่นว่ากลุ่มใดที่ผลงานดีทำยอดถึงเป้าทางบริษัทฮั่น
มหาชน จำกัด จะตบรางวัลให้ไปกินเมืองมีตำแหน่งใน บริษัทฮั่น มหาชน จำกัด
ก็มีผู้กล้าที่มองเห็นโอกาสมาชุมนุมกันซื้อแฟรนไซส์ไปรบกับ บริษัท
กลุ่มโจรผ้าเหลือง จำกัด ซึ่งในกลุ่มผู้กล้านี้มีกลุ่มหนึ่งที่โดดเด่น คือกลุ่ม 3
พี่น้องร่วมสาบาน ของ เล่าปี่ กวนอู และเตียวหุย สามคนนี้ในขณะนั้น
1 เล่าปี่ อายุ 24 ปี บุคลิกสุภาพอ่อนน้อม พูดจาไพเราะ
มารยาทดี จบการศึกษาสูงระดับปริญญาตรี
จากอาจารย์โลติดแต่มีฐานะที่บ้านยากจนเป็นผู้ดีตกอับเป็นเชื้อพระวงศ์สืบเชื้อสายจากพระเจ้าฮั่นโกโจ
ปัจจุบันอาชีพทำรองเท้าขาย
2 กวนอู อายุ 23 ปี ผู้เยี่ยมยุทธ์ด้านการขาย(การรบ) เคยทำอาชีพขายถั่ว
บุคลิก องอาจ สุขุม เก่งการรบ แต่ต้องคดีความเลยอยู่ระหว่างหลบหนีคดี
3 เตียวหุย อายุ 18 เป็นเศรษฐีท้องถิ่น นิสัยมุทะลุ
เก่งการรบ เป็นผู้ออกทุนในการจัดตั้ง หจก.สามพี่น้อง
ขึ้นมาออกไปรบกับ บริษัท กลุ่มโจรผ้าเหลือง จำกัด โดยมีนโยบายบริษัทว่า
แม้ไม่ได้เกิดวันเดียวปีเดียวกันแต่ถ้าเจ๊งเราจะเจ๊งด้วยกัน
ซึ่ง หจก.สามพี่น้อง
นี้มีผลงานมากมาย
เริ่มตั้งแต่จัดตั้งขึ้นมาก็รบชนะชิงพื้นที่การตลาดมาจากกลุ่มโจรโพกผ้าเหลืองได้มาโดยตลอดจนมาพบ
โลติด ผู้เคยเป็นอาจารย์สอนวิชาการของเล่าปีโดนจับกุมตัวกลับเมืองหลวง
เล่าปี่เข้าไปพูดคุยได้ความว่า อาจารย์โลติดของเล่าปีนั้นเป็นพนักงานของ บริษัท
ฮั่น มหาชนจำกัด ที่เป็นตงฉิน คือเป็นคนดีทั้งยังมีความรู้ความสามารถ
ระหว่างได้รับภารกิจ ออกมาทำตลาด(รบ)กับ
บริษัท กลุ่มโจรผ้าเหลือง จำกัด กำลังจะได้ชัยชนะ ทางส่วนกลางก็ส่งขันทีมาเป็น Auditor(ผู้ตรวจสอบ) ซึ่งผู้ตรวจสอบคนนี้ก็พยายามจะรีดไถเงินสินบนกับโลติดพอโลติดไม่ให้
ก็กลับไปแจ้งส่วนกลางว่า โลติดวันๆไม่ทำงานทำการ นั่งกินนอนกินไปวันๆ
ทางส่วนกลางจึงมีคำสั่งให้กุมตัวโลติดกับไปรับโทษที่ส่วนกลาง
และเปลี่ยนตังโต๊ะมาทำภาระกิจแทน
เมื่อทราบความดังนั้น สามพี่น้องก็รู้สึกว่าระบบบริหารงานขององค์กร ฮั่น
มหาชนจำกัดนั้นมีปัญหาแล้ว
และไม่อยากร่วมมือด้วยคิดจะกลับบ้านก็พบว่าตั๋งโต๊ะที่มาทำภารกิจแทนโลติดนั้นด้อยความสามารถ
จากที่กำลังจะได้ชัยชนะกลับกลายเป็นพลาดท่าเสียทีให้กับ กลุ่มโจรผ้าเหลือง จำกัด
เมื่อเห็นดังนั้นสามพี่น้องจึงเข้าช่วยเหลือ ตั๋งโต๊ะจนได้รับชัยชนะมาซึ่ง
เมื่อได้ชัยชนะมาแล้วตั๋งโต๊ะพบว่า
บริษัทของสามพี่น้องที่มาช่วยเหลือนั้นเป็นเพียง หจก. พื้นบ้านเล็กๆ
ไม่ได้มาจากสำนักงานใหญ่แบบตน ตั๋งโต๊ะก็ดูถูกเหยี่ยดหยาม จนเตียวหุยโกรธแค้นอยากจะจัดการเสีย
เนื่องจากคนแบบนี้ปล่อยให้อยู่ต่อไปก็มีแต่จะสร้างความเดือดร้อนซึ่งในอนาคตก็เป็นไปตามที่เตียวหุยคาดไว้
หลังจากแยกทางจากตั๋งโต๊ะ หจก.สามพี่น้องก็ได้ย้ายไปช่วยเหลือเมืองอื่นทำการรบ(ช่างเป็น
Outsource ที่ขยันจริงๆ) หจก.สามพี่น้องได้ไปช่วยเหลือจูฮีทำการรบและด้วยการช่วยเหลือและความสามารถของ
หจก.สามพี่น้อง จูฮีก็สามารถปราบ บริษัท
กลุ่มโจรผ้าเหลือง จำกัด กิน Market share ได้ถึง 15 หัวเมือง
ระหว่างนั้น โจโฉ กับซุนเซ็ก
และเหล่าผู้ร่วมปราบกบฏก็ช่วยกันปราบกลุ่มโจรโพกผ้าเหลืองได้สำเร็จ สามพี่น้อง
เตียวก๊ก เตียวโป้ เตียวเหลียง เสียชีวิต โจรโพกผ้าเหลืองถูกปราบราบคาบ เสีย Market
share ทั้งหมดคืนให้กับ บริษัทฮั่น มหาชน จำกัด
ค.ศ.185 เล่าปี่อายุ 25
ปี โจโฉอายุ 31 ปี ซุนกวนอายุ 4 ปี
หลังจากการปราบ
กลุ่มโจรโพกผ้าเหลืองจนล่มสลาย สามพี่น้องเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย
จึงยกทัพกลับส่วนกลางรับความดีความชอบ(Promote + Bonus + Commission)จูฮีได้รับแต่งตั้งไปเป็นผู้จัดการสาขาโห้หลำ
(เจ้าเมืองโห้หลำ) แต่
เล่าปี กวนอู เตียวหุย สามพี่น้องไม่มีเส้นสายคอบวิ่งเต้นให้
ความดีความชอบไม่รับทราบถึงท่านประธานฮ่องเต้ จึงไม่ได้รับความดีความชอบ
รอจนเริ่มจะถอดใจ เล่าปี่ก็ได้พบกับเตียวกิ๋น(ขุนนางฝ่ายใน) ได้ปรับทุกข์กันและเตียวกิ๋นจึงได้พาเล่าปี๋เข้าเฝ้าองค์ฮ่องเต้
และได้รับการ Promote ให้ไปเป็นผู้จัดการสาขาอันห้อก้วน(เจ้าเมืองอันห้อก้วน) เล่าปี่และพี่น้องใช้เวลารบพุ่งทำงานหนักต่อสู้อยู่กับ
บริษัท กลุ่มโจรผ้าเหลือง จำกัด
ทำผลงานได้ดีเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาตลอดทั้งปีจนมีวันนี้วันที่ความพยายามสำริดผล
ในยุคนั้นถือว่ายากมาก ที่กว่าชาวบ้านสามัญชนจนๆจะมาเป็นเจ้าเมืองได้
ถึงจะเป็นเชื้อพระวงศ์ตกยากก็เถอะ แต่ไม่มีทั้งเงินไม่มีทั้งเส้นสาย
ในยุคที่คอรัปชั่นครองเมือง
คุณจะมีคุณธรรมหรือความสามารถไม่สนถ้าคุณไม่มีเงินวิ่งเต้นคุณไม่มีทางได้ตำแหน่งแน่นอน
และในยุคคอรัปชั่นครองเมืองแบบนี้ถึงจะได้ตำแหน่งผจก.สาขา(เจ้าเมืองอันห้อก้วน)มาแล้วก็ใช่ทุกอย่างจะง่ายดังใจ
เล่าปี่เป็นคนดีมีคุณธรรมมีเมตตาพูดจาไพเราะ ลูกค้าทุกคนรักเล่าปี่มาก
ถึงจะอย่างนั้น ส่วนกลางก็ส่ง Auditor ผู้ตรวจสอบมาตรวจงานเล่าปี่ว่าทำงานเป็นอย่างไรบ้าง
ซึ่งก็ไม่ต่างกับ case ที่โลติดโดนไปก่อนหน้านี้ Auditor
ต้องการสินบนใต้โต๊ะจากเล่าปี
ซึ่งเล่าปี่เป็นคนดีไม่ได้คดโกงจึงไม่มีเงินทองมากเหลือไว้สำหรับจ่ายใต้โต๊ะ ให้ Auditor
พอโดนบีบมากๆเข้า เตียวหุยน้องชายเล่าปี่ทนไม่ไหว+เมา
จึงได้ไปทำร้ายร่างกาย Auditor เมื่อเป็นดังนั่นเล่าปี่จึงไม่อาจเป็นเจ้าเมืองต่อไปได้อีก
กวนอูจึงตัดพ้อว่า พวกเรา หจก.สามพี่น้องทำงานขยันขันแข็งช่วยส่วนกลางแต่ผลตอบแทนที่ได้ช่างน้อยนักซ้ำยังโดน
Auditor ชั่วๆมาขูดรีดกันอีก
เห็นทีจะทำงานให้ บริษัทนี้ไม่ไหวแล้ว บริษัทนี้ช่างแหลกเหลว
พุ่มไม้มีหนามย่อมไม่เหมาะที่หงส์จะอาศัย เล่าปี่จึงว่า เหตุเริ่มต้นที่ผู้นำ
มีผู้นำที่ไม่ดี ผู้ตามจึงเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เมื่อผู้ใหญ่ในองค์กรกินส่วยกินสินบน
ผู้น้อยในองค์กรก็พากันกินตามหมด เราไม่อยากทำงานให้ที่นี้แล้ว
พูดจบเล่าปี่ก็วางตราตั้งประจำตำแหน่ง และออกจากเมืองไปกับพี่น้อง
พร้อมมีคดีความทำร้ายร่างกายติดตัว
จะเห็นได้ว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ช่างยากลำบากนักแต่เมื่อพบว่าสิ่งที่ทำอยู่มันไม่ดีเล่าปีก็สามารถตัดสินใจเลิกทำได้อย่างไม่ลังเล
ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติทางผู้นำที่ยอดเยี่ยมของเล่าปี่
สรุป บทที่ 1
การค้าแบบ
Monopoly นั้นคือการค้าแบบมีผู้เล่นรายเดียวเป็นผู้ผูกขาดตลาดไว้
ซึ้งการที่ผูกขาดไว้ทำให้ผู้บริโภคไม่มีทางเลือก ต้องยอมรับสินค้าและบริการจากผู้เล่นรายนั้น
ทำให้ผู้ผูกขาดนั้นสามารถกำหนดตลาดได้ และการที่กำหนดตลาดได้
ทำให้ผู้ค้าไม่ให้ความสนใจผู้บริโภคมากนักเพราะผู้บริโภคต้องง้อสินค้าและบริการจากผู้ค้ารายนั้นๆ
แต่การผูกขาดนั้นเมื่อถึงจุดที่ผู้บริโภครับกับการผูกขาดไม่ได้ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงก่อให้เกิดผู้เล่นรายอื่นๆเข้ามาแข่งขัน
เพราะมีช่องทางให้ทำตลาดได้อยู่นั่นเอง

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น